Fit Contact
ติดต่อ ฟิตเน่ (ประเทศไทย)
แนะนำให้รับประทานอาหารที่ให้พลังงานไม่เกินที่ร่างกายต้องการต่อวัน แล้วดื่ม “ฟิตเน่ คอฟฟี่ เซฟ” ควบคู่กับการออกกำลังกายเพื่อให้ผลดีที่สุด
“ฟิตเน่ คอฟฟี่ เซฟ” ใช้ซูคราโลส แทนน้ำตาล ซึ่งให้ความหวานแบบน้ำตาล แต่มีแคลอรี่ต่ำ
ไม่ควรดื่มเกินวันละ 4 แก้วต่อวัน
เนื่องจาก “ฟิตเน่ คอฟฟี่ เซฟ” มีแคลอรี่ต่ำ และมีส่วนผสมของ แอล คาร์นิทีน  หากจะให้ผลดียิ่งขึ้นสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก ควรควบคุมปริมาณการรับประทานอาหารไม่ให้เกินปริมาณแคลอรี่ที่ร่างกายต้องการต่อวัน และออกกำลังกายควบคู่กันไปด้วย
ฟิตเน่ คอฟฟี่ เซฟ มีส่วนผสมของ แอล คาร์นิทีน หอม กลมกล่อม แคลอรี่เพียง 50 แคลอรี่/ซอง คุ้มค่า คุ้มราคา และการันตีคุณภาพโดยฟิตเน่
ไม่จำเป็นต้องรับประทานก่อนออกกำลังกาย สามารถดื่มได้ ทุกที่ ทุกเวลา ตามความสะดวก แต่ถ้าหากดื่มก่อนออกกำลังกายจะช่วยสลายไขมันได้ดีมากยิ่งขึ้น
แอล คาร์นิทีน ช่วยกระตุ้นการสลายไขมัน แนะนำให้ดื่มก่อนออกกำลังกาย เพื่อสลายไขมันได้ดียิ่งขึ้น
แอล คาร์นิทีน ช่วยกระตุ้นการสลายไขมัน ส่วนสารสกัดจากถั่วขาว หากดื่มก่อนรับประทานอาหาร จะช่วยยับยั้งการย่อยแป้งให้กลายเป็นน้ำตาล
แอล คาร์นิทีน เป็นสารอาหารธรรมชาติ มีลักษณะคล้ายวิตามิน และกรดอะมิโน ซึ่งพบอยู่ในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ได้แก่ กล้ามเนื้อ ตับ หัวใจ สมอง เป็นต้น ทำหน้าที่ช่วยการขนส่งกรดไขมันที่สะสมไว้ไปยังไมโตคอนเดรีย เพื่อให้เกิดการเผาผลาญเป็นพลังงาน ช่วยกระตุ้นการสลายไขมัน
กาแฟควบคุมน้ำหนัก ที่มีส่วนผสมของ “แอล คาร์นิทีน” คุ้มค่า คุ้มราคา
การดื่ม “ฟิตเน่ คอฟฟี่” ต่อเนื่องทุกวันไม่มีอันตราย
สารอิมัลสิไฟเออร์มีอยู่ในครีมเทียมทุกตัว แต่มีในปริมาณที่น้อยมาก มีหน้าที่ช่วยทำให้ส่วนประกอบของครีมเทียมผสมเป็นเนื้อเดียวกันได้ดี โดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ได้กำหนดปริมาณสูงสุดให้ใช้ได้คือ 5,000 มิลลิกรัม/ครีมเทียม 1 กิโลกรัม ถ้าหากใช้ครีมเทียม 1 กรัม ก็จะได้รับอิมัลซิไฟเออร์เพียง 0.005 กรัม ซึ่งถือว่าปลอดภัย
“ฟิตเน่ คอฟฟี่” ทุกสูตรไม่สามารถชงเย็นได้ เพราะส่วนประกอบที่ใช้บางตัวไม่ได้มีคุณสมบัติละลายได้ดีในน้ำเย็น ดังนั้นควรชงในน้ำร้อนแล้วจึงเติมน้ำแข็งในภายหลัง
สามารถดื่มผสมกันได้
เพราะกลไกการย่อยแป้งจะมีเอนไซม์แอลฟา-อะไมเลส ทำหน้าที่ย่อยแป้งให้เป็นน้ำตาล และจะเกิดขึ้นภายใน 1.5-1 ชั่วโมง หลังได้รับอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตหรือแป้ง ดังนั้น เพื่อให้ผลดีที่สุด ควรรับประทานก่อนมื้อหลักประมาณ 10-15 นาที เพื่อให้สารสกัดจากถั่วขาวเข้าไปยับยั้งเอนไซม์แอลฟา-อะไมเลส ก่อนที่แป้งจะถูกย่อย
คนอายุมากกว่า 50 ปี สามารถรับประทาน “ฟิตเน่ คอฟฟี่” ได้
เด็กอายุช่วย 13-14 ปี เป็นช่วงวัยที่กำลังเจริญเติบโต ควรได้รับสารอาหารที่ให้พลังงานครบทั้ง 5 หมู่ เพราะอยู่ในช่วงที่กำลังเรียนหนังสือและต้องทำกิจกรรมตลอดเวลา รวมถึงต้องพักผ่อนให้เพียงพอ ดังนั้น จึงไม่ควรได้รับสารคาเฟอีน
ค่าโซเดียมในฉลากอาหารเป็นข้อมูลโภชนาการที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) บังคับ โดยกำหนดว่า ควรได้รับน้อยกว่า 2,400 มิลลิกรัม/วัน ซึ่งใน “ฟิตเน่ คอฟฟี่” ทุกสูตรมีปริมาณโซเดียมน้อยกว่า 10 มิลลิกรัม/ซอง ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับปริมาณที่ อย. กำหนดไว้
ผู้ป่วยโรคเบาหวานสามารถดื่มได้ เนื่องจากไม่มีน้ำตาล แต่ใช้ “ซูคราโลส” เป็นวัตถุให้ความหวานแทนน้ำตาล จึงไม่มีผลทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้น แต่ผู้ป่วยโรคความดัน ควรหลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟ เพราะคาเฟอีนในกาแฟมีผลทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น
ไม่จำเป็นต้องดื่มทุกมื้อ หากดื่มมื้อเย็น อาจส่งผลให้นอนไม่หลับ เพราะมีคาเฟอีน แต่ทั้งนี้สามารถรับประทานร่วมกับ “ฟิตเน่ ท็อปปิ้ง สูตรผสมสารสกัดจากถั่วขาว” แทนได้
มื้อเช้าและมื้อเที่ยง แต่ไม่แนะนำมื้อเย็นเพราะกาแฟมีส่วนประกอบของคาเฟอีนอาจส่งผลทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับได้